การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information Management) บริษัท รวมถาวรขนส่ง จำกัด

1. Objectives of data collection, use, and disclosure (วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย)

บริษัทฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์อื่นๆ ดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลผู้สมัคร/ข้อมูลพนักงาน

ลำดับ	วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1	เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับสมัครงานและคัดเลือกผู้สมัครงาน
2	เพื่อวัตถุประสงค์ในการอนุมัติเงินเดือนและผลประโยชน์สำหรับพนักงานของบริษัท
3	เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจ้างงาน และการบรรจุพนักงานเข้าทำงาน อาทิ การตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน การระบุนามผู้รับผลประโยชน์ การขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม การเข้าทำสัญญาจ้าง และการเข้าทำสัญญาผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้น
4	เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการสวัสดิการและผลประโยชน์พนักงาน รวมถึงการเรียกค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย
5	เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานตามสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งเข้าทำกับบริษัท
6	เพื่อวัตถุประสงค์ในการบันทึกเวลาการทำงานจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส ค่าตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ
7	เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ
8	เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน
9	เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการการฝึกอบรมบุคลากร
10	เพื่อวัตถุประสงค์ในการโอนย้ายบุคลากรและการยืมตัวบุคลากร
11	เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลในเรื่องอื่น ๆ อาทิ การลงโทษทางวินัยา การเลิกจ้าง การลาออก และการเกษียณ เป็นต้น
12	เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับสมัครงาน
13	เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย
14	เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินของบริษัท

             2. ข้อมูลผู้ว่าจ้าง/ลูกค้า

ลำดับ	วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1	เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
2	เพื่อวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกผู้เข้าร่วมประมูลการขายสินค้าของบริษัท และการบริหารจัดการใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการประมูลขายสินค้า
3	เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนการสมัครสมาชิกหรือการลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
4	เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเข้าทำสัญญาและการวางหลักประกัน
5	เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
6	เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเตรียมสินค้าและ/หรือบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
7	เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าในระบบของบริษัท
8	เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
9	เพื่อวัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์และเพื่อกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท
10	เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ ของท่านเพื่อพัฒนาคุณภาพ การให้บริการของบริษัท หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
11	เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
12	เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทและคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
13	เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัท
14	เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินของบริษัท

             3. ข้อมูลคู่ค้า/พันธมิตรทางธุรกิจ

ลำดับ	วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1	เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า
2	เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนนผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
3	เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท
4	เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อจัดจ้างและการคัดเลือกคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
5	เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนคู่ค้ารายใหม่หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตลอดจนการดำเนินการ ตามคำขอต่าง ๆ ของคู่ค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
6	เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทกับคู่สัญญาใด ๆ
7	เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งเข้าทำกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
8	เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับคู่ค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
9	เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
10	เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย
11	เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินของบริษัท

 2. Legal bases (ฐานทางกฎหมาย)

การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล คือ การเข้าถึงและเข้าใช้บริการในระบบโปรแกรมและเว็บไซต์ เช่น ระบบ โปรแกรมทางบัญชี

การใช้เว็บไซต์ในการสมัครเป็นสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก เป็นต้น บริษัทจัดให้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัท

การใช้สั่งซื้อสินค้า บริการ สอบถามข้อมูล ร้องเรียน แจ้งข้อเสนอแนะ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่จำเป็นที่เจ้าของข้อมูลต้องให้ข้อมูล

ส่วนบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนได้ เพื่อให้บริษัทดำเนินการให้สิทธิหรือประโยชน์สำหรับการเข้าใช้บริการตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน

รวมถึงพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ การจัดทำ การตลาดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย

การประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการ การทำวิจัยวิเคราะห์และการสำรวจตลาดการทำข้อมูลเชิงสถิติ

เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ให้แก่ผู้ใช้บริการ การประมวลผลข้อมูล คือ บริษัทจะนำข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อได้รับความยินยอม

จากเจ้าของข้อมูล ยกเว้นการประมวลผลข้อมูลภายใต้ฐานการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้  

1. ฐานความยินยอม (Consent)

กรณีมีความจำเป็นบริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อการออกแบบ

หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ และหรือการบริการเพื่อนำเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และหรือการบริการเพื่อจัดกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท

หรือเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หากเจ้าของข้อมูล

ไม่ประสงค์ในส่วนนี้ สามารถถอนคำยินยอมได้ โดยติดต่อบริษัทและแจ้งความประสงค์

2. ฐานสัญญา (Contract) 

เมื่อผู้ใช้บริการสมัครเป็นสมาชิก หรือไม่ได้เป็นสมาชิก รวมถึงการใช้บริการด้านอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของข้อมูล

ต้องให้ข้อมูลแก่บริษัท เพื่อบริษัทจะได้นำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนี้ไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการตามข้อตกลงในการใช้

บริการรวมถึงนำไปใช้ในการติดต่อสื่อสารกับเจ้าของข้อมูล ติดตาม และแจ้งผลประโยชน์เกี่ยวกับสินค้า หรือบริการ ตอบข้อคำถาม

ซึ่งหากเจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จะทำให้บริษัทไม่สามารถรับการใช้บริการของเจ้าของข้อมูลได้ ไม่สามารถ            

จัดสิทธิและประโยชน์ตามเงื่อนไข ไม่สามารถ ติดต่อสื่อสารได้ ไม่สามารถตรวจสอบความสามารถในการเข้าทำสัญญา

รวมถึงตรวจสอบความเป็นตัวตนของเจ้าของ ข้อมูลได้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (3) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

3. ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)   

กรณีมีความจำเป็นบริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปใช้ในการประมวลผล เพื่อการจัดการ และจัดทำรายงาน

ที่จำเป็นภายในบริษัท การดูแลรักษาระบบเพื่อการรักษามาตรฐานหรือพัฒนาในบริการนั้น การบริหารจัดการความเสี่ยงภายในองค์กร

การควบคุมและการตรวจสอบภายใน ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลและการนำไปใช้               

ของผู้ประมวลผลข้อมูล ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (5) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

4. ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) 

กรณีมีความจำเป็นบริษัทอาจนำข้อมูลของเจ้าของข้อมูลไปใช้ในการประมวลผลข้อมูล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่กำกับดูแล เช่น

พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 พระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด

สมาคมและมูลนิธิ พ.ศ. 2499 เป็นต้น และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องอยู่ภายใต้การบังคับให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคล เช่น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ให้อำนาจศาลสั่งให้คู่ความส่งเอกสารหรือข้อมูลในการพิจารณาคดีความ เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (6)

ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

5. ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest)

กรณีมีความจำเป็นบริษัทอาจนำข้อมูลของเจ้าของข้อมูลเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต

ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูล เช่น การป้องกันโรคระบาด ผู้ควบคุมข้อมูลสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องได้รับ

ความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

6. ฐานประโยชน์สาธารณะ/ภารกิจของรัฐ (Public Task)

เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ

ที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

7. ฐานจดหมายเหตุ/วิจัย/สถิติ (Historical Document/Statistic/Research)

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษา

วิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม

3. Necessity for entering into a contract and possible effect if not provided (ความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญาและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล)

เจ้าของข้อมูลต้องให้ข้อมูลแก่บริษัท เพื่อบริษัทจะได้นำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนี้ไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการ

ตามข้อตกลงในการใช้บริการรวมถึงนำไปใช้ในการติดต่อสื่อสารกับเจ้าของข้อมูล ติดตาม และแจ้งผลประโยชน์เกี่ยวกับสินค้า หรือบริการ

ตอบข้อคำถาม ซึ่งหากเจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จะทำให้บริษัทไม่สามารถรับการใช้บริการของเจ้าของข้อมูลได้

ไม่สำมารถจัดสิทธิและประโยชน์ตามเงื่อนไข ไม่สามารถ ติดต่อสื่อสารได้ ไม่สามารถตรวจสอบความสามารถ                             

ในการเข้าทำสัญญา รวมถึงตรวจสอบความเป็นตัวตนของเจ้าของ ข้อมูลได้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (3) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล

 4. Personal data to be collected (ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม)

การเก็บรวบรวม การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ฉบับนี้ 

1. หลักการให้ความยินยอม (Consent)

1.1 การขอความยินยอม

a) ต้องทำเป็นหนังสือ หรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทจัดทำหนังสือให้ความยินยอมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (RTG-FM-HRDM-052)

โดยระบุรายละเอียดต่าง ๆ แก่พนักงานทราบก่อนลงนามให้ความยินยอม

b) พนักงานสามารถให้ความยินยอมเป็นวาจา/ทางโทรศัพท์ได้ ในกรณีที่พนักงานไม่สามารถขอความยินยอม

เป็นหนังสือหรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

c) ต้องมีความชัดเจน ไม่หลอกลวง ไม่ทำให้เจ้าของข้อมูลเข้าใจผิด ไม่มีเงื่อนไขในการให้ความยินยอม

d) ข้อมูลอ่อนไหวตามมาตรา 26 ต้องขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง

1.2 การถอนความยินยอม

a) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดตามที่กฎหมายกำหนด

b) ถอนความยินยอมได้ง่ายเหมือนขอความยินยอม

c) กรณีถอนแล้วมีผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมฯ ต้องแจ้งผลกระทบให้ทราบด้วย

     2. ฐานทางกฎหมายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ประเภทข้อมูล ส่วนบุคคล	ฐานทางกฎหมาย	ตัวอย่างวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลทั่วไป	1.1 ฐานสัญญา	บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลบัญชีธนาคารของพนักงานเพื่อจ่ายเงินเดือนเป็นไปตามสัญญาจ้างแรงงาน
	1.2 ฐานประโยชน์อันชอบธรรม	1. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนชั่วโมงการทำงานของลูกจ้าง เพื่อคิดคำนวณสถิติการมาทำงาน ค่าล่วงเวลา 2. การใช้กล้อง CCTV บันทึกในพื้นที่สำนักงาน คลังสินค้า ศูนย์ซ่อมบำรุงเพื่อป้องกันการโจรกรรม/ความปลอดภัยต่าง ๆ
	1.3 ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย	นายจ้างเปิดเผยข้อมูลเงินเดือนพนักงานต่อกรมสรรพากรตามมาตรา 65ประมวลรัษฎากร สำนักงานประกันสังคม และอื่น ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อพนักงาน
	1.4 ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต	บริษัทฯ ให้ข้อมูลพนักงานกับโรงพยาบาลเพื่อรักษาพนักงานที่เกิดอุบัติเหตุ
	1.5 ฐานประโยชน์สาธารณะ/ภารกิจของรัฐ	กรมสรรพากรคิดคำนวณเงินเดือนของลูกจ้างเพื่อตรวจสอบรายได้ ที่บริษัทยื่นมา
	1.6 ฐานจดหมายเหตุ/วิจัย/สถิติ	รอประกาศจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
	1.7 ฐานยินยอม	การเก็บข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้า
2. ข้อมูลอ่อนไหว	2.1 ฐานความจำเป็นปฏิบัติตามกฎหมาย	การตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงของพนักงานตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการตรวจสุขภาพลูกจ้าง ซึ่งทำงานเกี่ยวกับ ปัจจัยเสี่ยง พ.ศ. 2563
	2.2 ฐานก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย	กรณีฟ้องร้องคดีความ ระหว่างการเตรียมคำฟ้องเพื่อขอให้ศาลบังคับการตามสิทธิเรียกร้องของตน ทนายความผู้รับมอบอำนาจมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล (ข้อมูลอ่อนไหว) ของบุคคลที่สามได้
	2.3 ฐานป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต	กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ไม่มีสติ ไม่รู้สึกตัว และมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพ เพื่อใช้ในการรักษา เป็นต้น
	2.4 ฐานเปิดเผยสาธารณะโดยความยินยอมโดยชัดแจ้ง	กรณีเจ้าของข้อมูลให้สัมภาษณ์และถูกตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์หรือออกอากาศทางโทรทัศน์ ถือเป็นการเปิดเผยโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลแล้ว
	2.5 ฐานการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิสมาคม ฯลฯ	กรณีที่โบสถ์เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาและสุขภาพของสมาชิกเพื่อการประมวลผลข้อมูลให้กับสมาชิก
	2.6 ฐานยินยอมโดยชัดแจ้ง	บริษัทฯ เก็บข้อมูลประวัติอาชญากรรมของพนักงาน

  5. Retention period (ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม)

ลำดับ	ประเภทของเอกสาร	ระยะเวลา การจัดเก็บ	ผู้รับผิดชอบ
1	ใบสมัครพนักงาน	หลังสิ้นสุดการจ้างงาน 2 ปี	HRDM
2	เอกสารตรวจประวัติอาชญากรรม	หลังสิ้นสุดการจ้างงาน 2 ปี	HRDM
3	รายงานผลตรวจสุขภาพ	หลังสิ้นสุด การจ้างงาน 2 ปี	HRDM
4	สัญญาผู้ว่าจ้าง/ลูกค้า	หลังสิ้นสุดสัญญา 3 ปี	SMKD

 6. Categories of data recipient (ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจถูกเปิดเผย)

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมนั้น

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของสินค้า บริการ และ/หรือ ธุรกรรม ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภท โดยมีตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลทั่วไป (ตามมาตรา 24) เช่น ชื่อ เลขที่บัตรประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร เบอร์โทรศัพท์ รูปถ่าย ลายเซ็น อีเมล ID Line Facebook

2. สำเนาทะเบียนบ้าน ใบขับขี่ ใบวุฒิการศึกษา ทะเบียนรถ GPS ติดรถ นามบัตร พฤติกรรมการซื้อขาย ฯลฯ

3. ข้อมูลอ่อนไหว (ตามมาตรา 26) เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา ความเชื่อในลัทธิ พฤติกรรมทางเพศ

4. ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เช่น ภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา/ลายนิ้วมือ ฯลฯ

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอาจถูกเปิดเผยต่อบุคคลหรือนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องเช่น บุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง

กับการให้บริการ และกิจกรรม ตามจำเป็น เช่น ผู้ให้บริการจัดส่งและขนส่งสินค้าและผลิตภัณฑ์ ผู้ให้บริการประมวลข้อมูล

เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับข่าวสาร กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมการขายและการบริการ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการ เช่น

Search Engine, Social Media,  E-commerce ต่าง ๆ

 การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ (ถ้ามี)

 บริษัทฯ กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศดังนี้คือ บริษัทฯ จะดำเนินการ

เพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล

ส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน/ลูกค้า/คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก

ที่มาติดต่อบริษัทฯ  ไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และ/หรือ

ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศในอนาคต โดยในบางกรณีบริษัทฯ อาจขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคลสำหรับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศดังกล่าว

พนักงาน ผู้จัดการ หรือผู้บริหารของบริษัทฯ ที่จะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศจะต้องผ่านการพิจารณา

จากฝ่ายบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล (HRDM) ให้ความเห็นชอบและอนุมัติโดยบริษัทฯ ก่อนดำเนินการ

7. Company s contact details (ข้อมูลการติดต่อบริษัท)

แผนกบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล

บริษัท รวมถาวรขนส่ง จำกัด

ที่อยู่ : 2/4 หมู่ 10 ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540

อีเมล : hrdm@rttgroups.com

 8. DPO s and representative s contact details (if applicable) ( ข้อมูลการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตัวแทน) (ถ้ามี)

นางสาวกรรณิการ์ เหวยไทย

แผนกบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล (Human Resource Development & Management)

Tel: 02-3122929 ext. 122
Fax: 02-3121193
E-mail: Kannika.w@rttgroups.com

9. Rights of the data subject under the PDPA (สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตาม PDPA)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนดโดยให้ติดต่อใช้สิทธิที่ HRDM ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ ดังนี้

1. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคล (Right to Access) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองและขอให้บริษัทฯ

ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล

2. สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง            

รวมถึงมีสิทธิขอให้ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคลรายอื่น เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้

3. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคล (Right to Object) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูล

ส่วนบุคคลของตนเองได้

4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคล (Right to Erasure)  เจ้าของข้อมูลอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล

ของตัวเองเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)  เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับ

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคลของตนเอง

6. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)  เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลตนเอง

ให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วน สมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7. สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคล

ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคล

ที่ได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้

8. สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint) หากเจ้าของข้อมูลมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทาง                  

การปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคลของตัวเอง สามารถติดต่อบริษัทฯ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมาย

ว้าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคลตามระเบียบและวิธีการ

ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคลกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลภายใน 30 วัน นับตั้งแต่            

         วันที่ได้รับคำร้องดังกล่าว ซึ่งทางบริษัทฯ อาจจะปฏิเสธคำร้องของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง                  

         ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด